AHCC เพิ่มภูมิกำจัดไวรัสตับอักเสบบี

ไวรัสตับอักเสบบีเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดตับแข็งและมะเร็งตับ ประชากรโลกประมาณ 350-400 ล้านคนติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เป้าหมายของการรักษาเพื่อป้องกันการทำลายตับ การเกิดตับแข็งและมะเร็งตับ  การรักษาไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังด้วยการให้ยาต้านไวรัสซึ่งมีผลหยุดยั้งการเพิ่มปริมาณของไวรัส ส่วนการกำจัดไวรัสให้หมดไปจากร่างกายต้องอาศัยภูมิคุ้มกันของตัวเองเป็นหลัก

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินอาหารและตับได้ทำการศึกษาวิจัยทางคลินิคเพื่อศึกษาถึงผลของเอเอชซีซีต่อการกำจัดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังในผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังชนิดอีแอนติเจนเป็นบวก(HBeAg+)  ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อชนิดนี้เป็นกลุ่มที่มีการเพิ่มจำนวนของไวรัสอย่างรวดเร็ว มีความเสี่ยงสูงที่ตับจะถูกทำลาย เกิดตับอักเสบและมะเร็งตับ

การศึกษาเบื้องต้นในผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังชนิดอีแอนติเจนเป็นบวก (HBeAg+) จำนวน 10 รายที่รักษาด้วยยาต้านไวรัสติดต่อกันนานกว่า 2 ปีได้รับเอเอชซีซีวันละ 3 กรัม ร่วมกับยาต้านไวรัสที่ได้รับเป็นประจำเป็นเวลานาน 1 ปี  แพทย์ทำการตรวจติดตามผลทุกๆ 3 เดือน

ผลการวิจัยแสดงว่า 30% ของผู้ติดเชื้อมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยม เมื่อได้รับเอเอชซีซีร่วมด้วยโดยมีปริมาณอีแอนติเจนลดลงรวดเร็วอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนได้รับเอเอชซีซี และ 20% ตรวจไม่พบอีแอนติเจนในระยะเวลา 1 ปี  เมื่อเปรียบเทียบอัตราการตอบสนองระหว่างเอเอชซีซีและอินเทอร์เฟียรอนซึ่งเป็นยาฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันพบว่ามีอัตราการลดปริมาณอีแอนติเจนที่เท่ากันคือ 30% ในระยะเวลา 1 ปี โดยเอเอชซีซีไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

การให้เอเอชซีซีร่วมกับยาต้านไวรัสในผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเรื้อรังชนิดอีแอนติเจน (HBeAg+) เป็นบวกที่ตอบสนองต่อยาช้าจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา

Reference :

1. Chutaputti A. The Effect of Addition AHCC on HBsAg level in patients with CHBeAg negative on long term Oral Antiviral Agents (OAA) Treatment: International Congress on Nutrition and Integrative Medicine (ICNIM); 2015 July 25-26; Sapporo, Japan.