NK Cell ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด ด่านแรกที่แข็งแกร่งในการต่อสู้และป้องกันไวรัส

ร่างกายของคนเรานั้นมีระบบภูมิคุ้มกันที่ทำหน้าที่ในการปกป้องชีวิตจากภัยคุกคามของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเรียกว่า “เชื้อโรค” ทั้ง แบคทีเรีย ไวรัส รา ปรสิตอยู่รอบๆ ตัวเรา รอโอกาสที่เหมาะสมแทรกผ่านภูมิคุ้มกันทางกายภาพคือผิว หรือระบบทางเดินหายใจ เข้าอาศัยเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนตามอวัยวะต่างๆในร่างกายอันตรายถึงชีวิตได้ 
ปกติ NK Cell พบอยู่ในกระแสเลือด ต่อมน้ำเหลือง ไขกระดูก เป็นหนึ่งในภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดที่มีหน้าต่อต้านการติดเชื้อไวรัสโดยการกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสโดยตรงและยังหลั่งสารไซโตคายน์เพื่อเกิดการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันแบบเจาะจง ทำให้เกิดการสร้างสารต้านไวรัสที่เรียกว่า “แอนตีบอดี้” เกิดการต้านไวรัสอย่างครบวงจร 
 
นอกจากคุณสมบัติในการตอบโต้เชื้อไวรัสในทันทีแล้ว นักวิจัยยังค้นพบคุณสมบัติใหม่ของ NK Cell  คือความสามารถในการจดจำเชื้อโรคได้เช่นเดียวกับภูมิคุ้มกันชนิดจำเพาะเจาะจง (Adaptive Immunity) นั่นหมายความว่า Memory NK Cell จะต่อสู้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมในการติดเชื้อครั้งต่อไป
 
🛡️🛡️เกิดอะไรขึ้นเมื่อ ภูมิคุ้มกัน ระบบป้องกันภัยอ่อนแอ
 
โอกาสเกิดมะเร็งสูง
NK Cell เป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดที่มีความพิเศษและมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมการเกิดเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดย NK Cell สามารถกำจัดเซลล์ที่มีความผิดปกติได้หลากหลายชนิดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอทันทีและมีความสามารถพิเศษที่จะกำจัดถึงเซลล์ต้นกำเนิดของมะเร็งหรือเซลล์ที่ผิดปกติชนิดอื่น
NK Cell มีตัวรับที่จดจำสารที่มีเฉพาะในเซลล์มะเร็งเมื่อตัวรับจับกับสารเฉพาะนี้จะกระตุ้นให้ NK Cell หลั่งเอนไซม์ย่อยสลายทำให้เซลล์มะเร็งแตกตัวสลายไปเซลล์มะเร็งมีความสามารถในการหลบหลีกการตรวจจับของ NK Cell โดยการเพิ่มสารที่เหมือนเซลล์ปกติเพื่อหลอก NK Cell ว่าเป็นเซลล์ปกติ NK Cell จึงไม่สามารถตรวจพบและปลดปล่อยเอนไซม์ที่ย่อยสลายเซลล์มะเร็ง 
 
การศึกษาวิจัยโดยการติดตรวจติตามผลเป็นเวลา 11 ปี แสดงผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน และการทำงานของ NK Cell กับการเกิดมะเร็งว่า ถ้าการทำงานของ NK Cell (Activity) อยู่ในระดับต่ำความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งจะสูงขึ้น  นอกจากการเข้าจัดการเซลล์มะเร็งด้วยการย่อยสลายแล้ว NK Cell ยังปกป้องชีวิตจากมะเร็งโดยการหลั่งสารต้านมะเร็งคือ IL-2 , IL-12, IL-18 และ IL-21 ยังพบว่าในผู้ป่วยมะเร็งนั้นมีจำนวน NK Cell อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ
 
ติดเชื้อง่าย อาการรุนแรง
ทันทีที่ติดเชื้อ  NK Cell ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดเป็นด่านแรกที่เข้าจัดการไวรัสโควิด-19 โดยย่อยสลายเซลล์ที่ติดเชื้อพร้อมกับผลิตสาร proinflammatory cytokine  ที่มีผลในการหยุดยั้งการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของไวรัส และกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเจาะจง (Adaptive Immune) สร้างแอนตีบอดี้ (antibodies) และ cytotoxic T cells เพื่อทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
แต่หากว่าระบบตอบสนองภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดอ่อนแอไวรัสจะได้โอกาสแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากมายภายในเซลล์เข้าทำอันตรายต่ออวัยวะภายในร่างกายโดยหนาม (spike) ของไวรัสจะเข้าจับกับตัวรับของเซลล์ปอดที่เรียกว่า ACE2 (Angiotensin-converting enzyme 2)  เปิดประตูให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์กระตุ้นให้แมคโครฟาคที่ถุงลมปอดและเยื่อบุหลั่งสารหลายชนิดที่มีผลให้เกิดการอักเสบรุนแรงอย่างเฉียบพลันที่ปอด
 
4 ปฏิบัติการต้านไวรัส ของ NK Cell 🛡️🛡️
1. NK Cell ทำหน้าที่โดยตรงในการกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส ด้วยการพุ่งตรงเข้าปลดปล่อยเอนไซม์ Perforin และ Granzyme B ย่อยสลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสทันที
2. NK Cell กำจัดเซลล์ติดเชื้อด้วยการผลิตไซโตคายน์ที่กระตุ้นการอักเสบชื่อ อินเทอเฟียรอน-แกมมา ( IFN-γ) และ TNF-α
3. NK Cell  เข้าย่อยสลายไวรัสที่ถูกจับโดย “ แอนติบอดี ” ในร่างกาย
4. NK Cell มีปฏิกิริยากับเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่น เช่น monocyte กระตุ้นให้เกิดการสร้างไซโตคายน์อินเทอเฟียรอน-แกมม่า ( IFN –γ) และส่งเสริมให้เกิดการย่อยสลายเซลล์ติดเชื้อ
 
ต่างกันที่ภูมิคุ้มกันระหว่างผู้ติดเชื้ออาการน้อย และอาการรุนแรง🛡️🛡️
ในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการน้อยจนถึงอาการปนกลางนั้น ตรวจพบว่ามีปริมาณ NK Cell และ T Cell อยู่ในระดับสูง และภูมิคุ้มกันทำงานอย่างแข็งขันที่ระบบทางเดินหายใจขณะที่ผู้ติดเชื้อที่มึอาการรุนแรงมีจำนวน NK Cell อยู่ในระดับต่ำและมีตัวรับสัญญาณที่ตรวจจับเซลล์ติดเชื้อน้อยกว่าผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยถึงปานกลาง
 
นอกจากนี้ในผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด NK Cell , T Cells, CD4+ T Cell และ CD8+ Cell ในกระแสเลือดสูงร่างกายจะสามารถกำจัดไวรัสได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่าโดยตรวจไม่พบไวรัสครั้งแรกและตรวจพบแอนตีบอดีรวดเร็วกว่าผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงซึ่งมีจำนวนเม็ดเลือดขาวเหล่านี้ลดลง